เรื่องน่ารู้ เปลือกผลไม้ใครว่าไร้ค่า
1. เปลือกกล้วย มีคุณสมบัติทำให้ผิวชุ่มชื้น เพียงใช้เปลือกกล้วยล้างน้ำให้สะอาดแล้วใช้ถูกับมือ ข้อเท้า ขา หรือใบหน้าก็ได้ นอกจากจะทำให้ผิวชุ่มชื่นไม่แห้งกร้านแล้ว ยังทำให้ผิวนุ่ม นอกจากนั้นเปลือกกล้วยน้ำว้ายังสามารถใช้แทนน้ำยาขัดรองเท้าได้อีกด้วย 2. เปลือกทุเรียน เวลากินทุเรียนแล้วไม่รู้จะเอาเปลือกไปไว้ไหน ขอแนะนำให้เอาไปตากให้แห้งใช้เป็นเชื้อเพลิงแทนถ่านไม้ได้ หรือเวลาที่กินทุเรียนแล้วเกิดอาการร้อนใน ขอแนะนำให้ลองดื่มน้ำทุเรียนที่รินใส่เปลือกทุเรียนผสมเกลือเล็กน้อย อาการก็จะบรรเทา ยิ่งไปกว่านั้นน้ำที่ใส่ในเปลือกทุเรียน หากเอามาล้างมือล้างปากก็สามารถแก้กลิ่นทุเรียนที่ติดอยู่ได้อีกด้วย 3. เปลือกส้มโอ นอกจากจะเอาไปทำส้มโอเชื่อมและส้มโอมือแล้ว เปลือกส้มโอยังสามารถขัดภาชนะที่ทำจากอะลูมิเนียมให้มีความใสและมันวาวได้อีกด้วย เพียงนำเปลือกส้มโอมาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่ในน้ำเดือดประมาณ 20 นาที แล้วนำเปลือกส้มโอที่ต้มแล้วมาขัดถูภาชนะกับสบู่ เครื่องครัวก็จะแวววาวสดใส โดยไม่ต้องเปลืองตังค์ไปซื้อน้ำยาราคาแพง 4. เปลือกสับปะรด นำภาชนะทองเหลืองหรือเครื่องเงินลงแช่ในน้ำใส่เปลือกสับปะรดลงให้มิด ทิ้งไว้ 1 คืน แล้วนำมาล้างให้ละอาดด้วยน้ำธรรมดา เครื่องทองเหลืองหรือเครื่องเงินก็จะสดใสงดงามราวกับของใหม่ 5. เปลือกส้ม บ้านใครมียุงชุมและอยู่ในสวน ขอแนะนำให้ใช้เปลือกส้มกำจัดยุง หลังจากที่กินส้มเขียวหวานแล้ว อย่าทิ้ง! นำเปลือกส้มเขียวหวานไปตากให้แห้งสักแดดสองแดด นำมาสุมไฟไล่ยุงได้อย่างดี ไม่มีสาร ตกค้าง หรือนำเปลือกส้มสดทิ้งไว้ตามใต้โต๊ะหรือที่มืด ๆ ในบ้านก็จะสามารถไล่ยุงได้ค่ะ
โรงพยาบาลธรรมชาติ..แบ่งปันกันต่อ
ReplyDelete๑.ไขมันในเลือดสูง แทนที่จะหายามากินให้ปวดหัว ตับพัง ก็หากระเทียมสดมากินสักวันละ ๑๐ กลีบกับกินหอมหัวใหญ่สดวันละครึ่งหัว
๒.ปวดหัว ให้หาผักคะน้าหรือปวยเล้ง (แมกนีเซียม) กินวันละ ๕ ขีดและกินปลาทูอีกวันละ ๒ ตัว (น้ำมันปลาลดการอักเสบได้) หรือจะชงโกโก้กินหน่อยก็ช่วยได้ค่ะ
๓.เป็นหวัด ไอ จามบ่อย ให้หมั่นแปรงลิ้นและกิน กระเทียม หอม พริกให้มากเข้าไว้
๔.ภูมิแพ้ แค่กินฝรั่งวันละ ๕ ชิ้นกับเมล็ดฟักทองวันละ ๑ กำมือ (สังกะสี)
๕. แพ้ฝุ่นละออง ไรฝุ่น หาโยเกิร์ตแบบรสธรรมชาติและนมเปรี้ยวไม่หวานจัดมากิน
๖.โรคหืดหอบ ไอเรื้อรัง กินต้มยำไก่, กินหัวหอมใหญ่ หอมแดงต้นหอมและเอาหอมซุก ไว้ใต้หมอน
๘.ไขข้ออักเสบ หาปลาเนื้อมันกินวันละ ๒ ขีด เช่นปลาทู,ปลาสวาย,ปลาแซลม่อน, ปลาซาร์ดีน,ปลาทูน่าหรือแม้แต่ปลากระป๋อง
๙.กระเพาะปัสสาวะอักเสบบ่อยให้กินน้ำกระเจี๊ยบไม่หวานจัดวันละ ๓ มื้อ หรือน้ำแครนเบอรี่ ของฝรั่งในปริมาณเท่ากัน ( เปรี้ยวจัดมาก)
๑๐.ท้องอืด แก๊สมาก ให้กินกล้วยหักมุกปิ้งหรือขิงบ่อย ๆ
๑๑.ท้องผูก ชงน้ำผึ้งดื่มวันละ ๓ ช้อนโต๊ะและให้กินน้ำมะขามต้มติดเนื้อมาก เช้า เย็น
๑๒.โรคกระเพาะอาหาร หากล้วยหักมุกปิ้งกิน, กินกล้วยหรือกินผักกระ หล่ำปลีให้มาก
๑๓.เวียนหัว คลื่นไส้ง่าย ให้หาอาหารทำจากขิงรับประทาน เช่น ปลาผัดขิง ไก่ผัดขิง, น้ำขิง, ชาขิงหรือเต้าฮวย
๑๔.วัยทอง วูบวาบ อารมณ์ปรวน ให้กินปลาทูน่าให้มากและกินเต้าหู้เหลืองวันละ ๑ แผ่น ถ้ากินเต้าหู้แล้วเบื่อให้สลับกับถั่วลิสงวันละ ๑ กำมือก็ได้
๑๕.หงุดหงิดง่าย(lips) ให้กินอาหารร่าเริง คือ ข้าวเหนียวดำ ข้าวโพด กลอย กล้วยหอมและปลาทูน่า
๑๖.กระดูกพรุน ให้กินงาดำวันละ ๔ ช้อนโต๊ะ (ได้แคลเซียมมาก) มะม่วงจิ้มกะปิ และ สับปะรด ซึ่งมีธาตุสมานกระดูกอยู่มาก( แมงกานีส)
๑๗.ความจำไม่ดี ให้กินปลาทูวันละ ๒ ขีด หอยแครงและหอยนางรมซึ่งมีธาตุสังกะสีช่วยสมองได้
๑๘.มะเร็งเต้านม ให้กินบร็อคโคลีหรือคะน้าวันละ ๕ ขีด
๑๙.มะเร็งปอดทางเดินหายใจ ให้กินเสาวรส ฝรั่ง ส้ม มะนาว มะขามป้อม มะละกอ มะม่วง ให้มาก เพราะวิตามินซีช่วยสมานหลอดเลือดในปอดได้ดี แต่ต้องระวังวิตามินเอโดยเฉพาะผู่ที่ยังสูบบุหรี่อยู่
๒๐.ท้องเสีย ลำไส้แปรปรวน กินแอปเปิ้ลเขียววันละ ๑-๒ ผล หรือน้ำแอปเปิ้ลเขียวปั่นทั้งกาก จะเป็นการล้างพิษในตัวด้วย
๒๑.เจ็บอก โรคหัวใจ หลอดเลือดตีบ กินปลาทะเล น้ำมันมะกอกเอ็กซ์ตร้าเวอร์จิน ผลอโวคาโดเพราะเหล่านี้มีไขมันดีไปช่วยขับตะกรันน้ำมันเก่าออก ถ้าชอบดื่มชาให้หาชาเขียวสดมาชงดื่มเองวันละถ้วย
๒๒.ความดันสูง ต้องตัดบุหรี่และอาหารเค็ม ลองหาข้าวโอ๊ตไม่ขัดสีมากินและผักขึ้นฉ่ายสดหรือปั่นก็ได้ จะช่วยคุมความดันให้ดีขึ้น
๒๓.เบาหวานถามหา ให้เลี่ยงแป้งกับน้ำตาล และ กินผักเขียวจัดอย่างคะน้า บร็อคโคลี ผักโขมให้มาก ถ้าอยากหวานให้กินส้มโอและฝรั่งเพราะมีน้ำตาลอยู่น้อยมาก
โรงพยาบาลธรรมชาติ